Contents
บ้านทรอปิคอลสมัยใหม่ แรงบันดาลใจในการออกแบบบ้านส่วนหนึ่งใหญ่ ๆ
บ้านทรอปิคอลสมัยใหม่ แรงบันดาลใจในการออกแบบบ้านส่วนหนึ่งใหญ่ ๆ จะได้รับอิทธิพลจากไซต์เอง เริ่มตั้งแต่รูปร่างที่ดิน ที่ตั้งมีข้อดีและข้อจำกัดต่างกัน ทิศทางแสง ทิศทางลม วิว ก็ต่างไปเช่นกัน หากเราใช้สิ่งที่มีอยู่ให้สอดคล้องกับสิ่งที่กำลังจะเกิดตามมา ก็จะทำให้บ้านได้ประโยชน์สูงสุดทีเดียวครับ ตัวอย่างบ้านเนื้อหานี้นี้ก็เน้นการจัดวางของบ้านแบบที่ว่ามา โดยมีความพิเศษอีกนิดหนึ่งตรงที่นอกจากจะดีไซน์บ้านให้สอดรับกับบริบทที่มีอยู่เดิมแล้ว ยังได้รับอิทธิพลจาก biomorphism ในการจำลององค์ประกอบธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบ้านอย่างน่าสนใจด้วยครับ
Daaji’s Home ตั้งอยู่ใน Heartfulness Center ที่ Kanha Shantivanam ใน Hyderabad ประเทศอินเดีย ออกแบบโดย The Grid Architects จุดเริ่มต้นของบ้านนี้ อาจจะแปลกกว่าบ้านอื่น เพราะเกิดจากคำถามง่าย ๆ ว่าบ้านคืออะไร มันเป็นแค่สิ่งก่อสร้างที่ปิดล้อมด้วยอิฐและปูนหรือเปล่า (รูปธรรม) หรือความรู้สึกอารมณ์อบอุ่น (นามธรรม) แล้วถ้าสองอย่างนี้มารวมเป็นหนึ่งเดียวกันจะเพียงพอหรือไม่ ในท้ายที่สุดคำตอบที่เจ้าของบ้านได้คือ บ้านเป็นสถานที่ที่ ‘คุณ’ และ ‘ฉัน’ ถูกแทนที่ด้วย ‘เรา’ นั่นคือ บ้านต้องตอบโจทย์การใช้งานร่วมกันของทุกคน ในขณะที่ต้องพยายามสร้างพื้นที่ที่เพิ่มความมีชีวิตชีวา อารมณ์และความรู้สึกอาทรระหว่างกันในครอบครัว และไม่เพิกเฉยต่อธรรมชาติที่ล้อมรอบตัวอยู่ด้วย บ้านสไตล์คลาสสิค
เป็นที่อยู่อาศัยที่ผสมผสานอย่างกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ ไซต์นี้ดูเผินๆ เหมือนไม่มีอะไร แต่ในความเป็นจริงแล้วความท้าทาย อยู่ตรงที่บริเวณนี้มีต้นไม้เก่าแแก่และหินโบราณก้อนใหญ่อยู่ ซึ่ง Daaji ผู้เป็นเจ้าของบ้านต้องการอนุรักษ์ไว้ ดังนั้นต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบเพื่อรองรับองค์ประกอบเหล่านี้ โดยการวางตำแหน่งของหินและต้นไม้เป็นหลัก แล้วสร้างให้ตัวบ้านล้อมรอบ ดังนั้น ¾ ของพื้นที่แปลงทั้งหมดถูกปล่อยให้เป็นที่โล่งกว้างหรือเป็นสนามหญ้า ส่วนพื้นที่ก่อสร้างอาคารมีเพียง ¼ ของพื้นที่ทั้งหมด
เป็นที่อยู่อาศัยที่ผสมผสานอย่างกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ ไซต์นี้ดูเผินๆ เหมือนไม่มีอะไร แต่ในความเป็นจริงแล้วความท้าทาย อยู่ตรงที่บริเวณนี้มีต้นไม้เก่าแแก่และหินโบราณก้อนใหญ่อยู่ ซึ่ง Daaji ผู้เป็นเจ้าของบ้านต้องการอนุรักษ์ไว้ ดังนั้นต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบเพื่อรองรับองค์ประกอบเหล่านี้ โดยการวางตำแหน่งของหินและต้นไม้เป็นหลัก แล้วสร้างให้ตัวบ้านล้อมรอบ ดังนั้น ¾ ของพื้นที่แปลงทั้งหมดถูกปล่อยให้เป็นที่โล่งกว้างหรือเป็นสนามหญ้า ส่วนพื้นที่ก่อสร้างอาคารมีเพียง ¼ ของพื้นที่ทั้งหมด
เป็นที่อยู่อาศัยที่ผสมผสานอย่างกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ ไซต์นี้ดูเผินๆ เหมือนไม่มีอะไร แต่ในความเป็นจริงแล้วความท้าทาย อยู่ตรงที่บริเวณนี้มีต้นไม้เก่าแแก่และหินโบราณก้อนใหญ่อยู่ ซึ่ง Daaji ผู้เป็นเจ้าของบ้านต้องการอนุรักษ์ไว้ ดังนั้นต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบเพื่อรองรับองค์ประกอบเหล่านี้ โดยการวางตำแหน่งของหินและต้นไม้เป็นหลัก แล้วสร้างให้ตัวบ้านล้อมรอบ ดังนั้น ¾ ของพื้นที่แปลงทั้งหมดถูกปล่อยให้เป็นที่โล่งกว้างหรือเป็นสนามหญ้า ส่วนพื้นที่ก่อสร้างอาคารมีเพียง ¼ ของพื้นที่ทั้งหมด
การรับรู้การเปลี่ยนแปลงของแสงสว่าง เป็นเหมือนนาฬิกาชีวภาพของมนุษย์ที่รับรู้ได้ว่าถึงเวลาเช้า บ่าย ค่ำ คุณภาพของแสงที่อบอุ่นก็มีผลโดยตรงต่อร่างกาย สภาพอารมณ์และจิตใจ สังเกตว่าบ้านที่ทึบจะให้บรรยากาศที่ชวนหดหู่ ทั่วทั้งบ้านนี้จึงมีมีหน้าต่างกระจกแบบเปิดได้อย่างเต็มที่ เปิดรับลมและอากาศบริสุทธิ์ให้ไหลเวียนภายใน ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ยังส่งผลดีกับบ้านในสภาพอากาศร้อนชื้นด้วย นอกจากนี้ยังมีการจัดวางต้นไม้ทั้งภายนอกภายในบ้าน และที่พิเศษคือ โขดหินโบราณที่เผยตัวอย่างน่าแปลกใจอยู่ในห้องนั่งเล่นด้วย
จากแนวคิดที่ให้ความสำคัยกับ biomorphism ในการจำลององค์ประกอบธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบ้าน สถาปนิกนำมาใช้อีกพื้นที่คือสวนระหว่างอาคาร เราจะเห็นการโรยกรวดให้เป็นทางโค้งๆ โอบล้อมต้นไม้และคดเคี้ยวไปรอบ ๆ โขดหิน ที่จำลองจากการไหลของน้ำ โครงสร้างที่ลาดต่ำของบ้านยังช่วยให้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อมได้อย่างลงตัว ในส่วนของกำแพงบ้านทำมุมอย่างมีชั้นเชิงเพื่อรองรับหินและต้นไม้ สร้างที่อยู่อาศัยที่รวบรวมแก่นแท้ของธรรมชาติ แสดงออกถึงความเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งกับสิ่งแวดล้อม
การออกแบบบ้านให้สอดคล้องกับสภาพอากาศร้อนชื้นนั้น จำเป็นต้องมีช่องทางรับแสงที่เพียงพอในทิศทางที่บ้านต้องการ เช่น ทิศเหนือ ทิศตะวันออก ที่ให้แสงคุณภาพในยามเช้า ช่วยลดความชื้น เพิ่มความสว่างโดยไม่ต้องพึ่งพาไฟฟ้ามาก ส่วนทิศตะวันตกนั้นจะมีตัวช่วยลดทอนความร้อนแรงของแสงในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ครีบคอนกรีตแนวตั้ง ฟาซาดฉลุลาย ระแนงไม้ ระแนงอลูมิเนียม หรือแนวต้นไม้ก็จะได้ทั้งความร่ม เย็น และช่วยซับฝุ่นซับเสียงได้ด้วย ยิปมันตา Pool Villa
บ้านทรอปิคอล จัดทางเข้าทิศตะวันออก ชมทิวทัศน์ทั้งวัน
ถ้าถามถึงวัสดุมุงหลังคาที่เป็นที่นิยมในหลายปีมานี้คำตอบก็อาจจะมีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกระเบื้องคอนกรีต กระเบื้องลอนคู่ เมทัลชีท วัสดุแผ่นยางมะตอย แต่บ้านที่จะเลือกมุงกระเบื้องดินเผา ซึ่งเป็นวัสดุภูมิปัญญาพื้นบ้านของไทยมีน้อยลงมาก เท่าที่เห็นก็จะเป็นบ้านพื้นถิ่นไทยประยุกต์ สำหรับในแถบประเทศเพื่อนบ้านไม่ใกล้ไม่ไกล (มาก) ที่ยังหยิบจับกระเบื้องแบบนี้มาใช้งาน ผสมผสานความทันสมัยแบบได้กลิ่นอายวัฒนธรรมดั้งเดิมจะมีเวียดนามและอินเดีย และเนื้อหานี้เราจะพาไปดูการใช้งานหลังคากระเบื้องดินเผาในอินเดียกันครับ
ในการออกแบบบ้านนี้ หลังคาเป็นองค์ประกอบที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมดั้งเดิมได้มากที่สุด ด้วยรูปลักษณ์ด้านหน้าที่มีลักษณะเฉพาะตัวจากหลังคากระบื้องดินเผาสีแดง (กระเบื้อง Mangalore เป็นกระเบื้องที่มีถิ่นกำเนิดในเมือง Mangalore ประเทศอินเดีย) ในส่วนของโถงทางเข้า ส่วนหลังคาอีกสองชั้นข้างหลังเป็นหลังคาจั่ววัสดุมุงเรียบ ๆ บริเวณทางเข้าได้ปลูกต้นไม้ไว้ 4 ต้น เพื่อเพิ่มร่มเงาและเงาให้กับตัวบ้าน ในขณะที่มีประตูหน้าต่างกระจกอยู่รายล้อม สิ่งเหล่านี้สร้างรูปแบบที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลาภายในบ้าน และไม่บดบังวิสัยทัศน์
บ้านทำงานได้ดีตามสภาพอากาศเขตร้อนชื้น เนื่องจากใช้วัสดุจากธรรมชาติ เช่น ไม้ ดินเผา แผ่นหิน รอบ ๆ เต็มไปด้วยทิวทัศน์อันเขียวขจีของต้นไม้และสวนน้ำ พร้อมกับใส่ช่องเปิดให้ลมและความเย็นไหลเข้าสู่ตัวบ้านได้ดี
เมื่อเข้าไปในบ้าน เราจะเห็นว่าสถาปนิกแยกพื้นที่นั่งเล่นออกจากพื้นที่พักอาศัยอื่นๆ อยู่หน้าบ้าน เผื่อมีการต้องรับแขกจะช่วยรักษาความเป็นส่วนตัวภายใน เพดานห้องสูงเป็นทรงจั่วพชตีฝ้าเพดานไม้ตามแนวหลังคา ใส่วัสดุโปร่งแสงตรงจั่วทำให้บ้านมีความสว่างจากด้านบนในปริมาณที่พอดี ข้อดีอย่างหนึ่งของไซต์นี้คือการเข้ามาจากทางตะวันออก แสงแดดยามเช้าที่อบอุ่นเข้ามาในบ้านผ่านทางช่องเปิดขนาดใหญ่แต่ไม่ร้อน ทำให้นั่งชมวิวสวนหน้าบ้านและด้านข้างได้ตลอดทั้งวัน
จากห้องนั่งเล่นมีโถงทางเดินนำลึกเข้าไปด้านใน เป็นพื้นที่รับประทานอาหารและครัวที่อยู่เยื้องกัน โดยมุมทานข้าวอยู่ทางทิศตะวันตกที่มีหน้าต่างไม้เรียงรายตลอดแนวเหมือนห้องนั่งเล่น บริเวณนี้จึงมีแสงสว่างทั้งในตอนเช้าและตอนเย็น จากนั้นจะมีพื้นที่ว่างขยายไปยังม้านั่งไม้ยาวๆ ที่มีฉากหลังเป็นสวนน้ำเขียวชอุ่มเย็นสบาย ให้ความรู้สึกกึ่งเอ๊าต์ดอร์ แต่ในช่วงที่รู้สึกว่าแสงแดดเริ่มทำให้ร้อน แสงจ้ากระทบสายตาก็สามารถดึงผ้าม่านมาปิดได้
ในขณะที่บ้านหลังอื่นๆ มักจะทำพื้นที่นั่งเล่นอยู่ที่ชั้นล่าง แต่บ้านนี้เพิ่มพื้นที่สันทนาการบนชั้นสองด้วย เป็นพื้นที่ใต้หลังคาโปร่งๆ เหมือนศาลาที่เอาไว้ใช้งานได้อเนกประสงค์ ไม่ว่าจะมานั่งเล่นบนชิงช้าที่แขวนอยู่ หรือเปลี่ยนบรรยากาศมาทานข้าว ปาร์ตี้เล็ก ๆ ซึ่งความโปร่งโล่งและอยู่ในระดับที่สูงขึ้นทำให้จุดนี้รับลมได้รอบทิศทาง
กระเบื้องหลังคาดินเผาไม่มีฝ้าเพดาน แต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกร้อน ผนังและพื้นตกแต่งด้วยแผ่นหินดูแข็งแกร่งตัดคกับความอ่อนโยนของงานไม้ได้เป็นอย่างดีกระเบื้องดินเผาเป็นวัสดุธรรมชาติที่มีความกลมกลืนกับธรรมชาติ คุณสมบัติให้ความรู้สึกเย็นสบาย จึงแทบไม่จำเป็นต้องมีฝ้าเพดานกรุ
เพียงแต่อาจจะทำเป็นหลังคาจั่วเพื่อให้พื้นผิวที่ต้องสัมผัสแดดน้อยกว่าหลังคารูปแบบอื่นๆ และต้องทำให้ระยะห่างจากพื้นถึงหลังคาสูง ๆ (เหมือนวิหารในวัด ) เพื่อให้ความร้อนจากหลังคาค่อยๆ ถูกลดทอนลงก่อนมาถึงพื้นที่ใช้งานในบ้าน แต่ข้อเสียของกระเบื้องแบบนี้ก็มี เช่นความแข็งแรงไม่สูงมาก ดูดซึมน้ำได้ดี มีคราบดำและตะไคร่น้ำได้ง่าย จึงต้องชั่งน้ำหนักให้ดีก่อนตัดสินใจนำมาใช้
5 ปัจจัยการออกแบบบ้านสไตล์ทรอปิคอล
หลังจากรู้จักบ้านสไตล์ทรอปิคอลแล้วใครมีแพลนจะสร้างบ้านในสไตล์นี้ เตรียมจด 5 ปัจจัยที่ HomeTalks นำมาฝากกันได้เลย ถ้าทำครบตามข้อดัง 5 ต่อไปนี้ รับรองว่าคุณจะได้บ้านสไตล์ทรอปิคอลในฝันตามแบบที่จินตนาการไว้อย่างแน่นอน !
1.เลือกใช้สีเอิร์ธโทน
การเลือกใช้สีเป็นปัจจัยแรกที่ HomeTalks แนะนำสำหรับการแต่งบ้านสไตล์ทรอปิคอล เพราะการเลือกใช้สีเอิร์ธโทนที่มีความสว่างสดใสช่วยให้บรรยากาศบ้านดูผ่อนคลาย แถมยังเนียนไปกับธรรมชาติได้เป็นอย่างดี
หมายเหตุ : บ้านสไตล์นี้ไม่นิยมใช้สีโทนเข้มอย่างดำหรือเทาเป็นหลัก เพราะอาจทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกอึดอัด แต่อาจจะมีการแทรกเข้ามาเล็กน้อยตามความเหมาะสม และความชอบส่วนตัว
2.ใช้วัสดุธรรมชาติ
บ้านสไตล์ทรอปิคอล โดดเด่นด้วยการตกแต่งโดยใช้วัสดุที่มาจากธรรมชาติ ทั้งการตกแต่งภายในและภายนอก โดยที่วัสดุส่วนใหญ่ที่นักออกแบบเลือกใช้ไม่ได้มีแค่ไม้เท่านั้น คุณอาจจะลองหยิบงานหวาย เครื่องสาน เซรามิก หรือแผ่นกระเบื้องดินเผาปูพื้มาเพิ่มกลิ่นอายของธรรมชาติให้บ้านสไตล์ทรอปิคอลให้ดูน่าอยู่อาศัยมากยิ่งขึ้น
3.เติมต้นไม้ให้บ้าน
เพราะธรรมชาติคือพระเอกของบ้านสไตล์ทรอปิคอล HomeTalks จึงแนะนำให้มีการเติมพื้นที่สีเขียวให้กับบ้านสไตล์ทรอปิคอลของคุณ ถ้ามีพื้นที่เยอะก็อาจจะหาต้นไม้ที่ให้ร่มเงาขนาดใหญ่ หรือจะเป็นต้นไม้ตระกูลปาล์มหางกระรอก เพื่อให้บรรยากาศดูเป็นบ้านสไตล์ทรอปิคอลมากยิ่งขึ้น หรือถ้ามีพื้นที่น้อย อาจจะจัดสวนหน้าบ้านเล็ก ๆ หรือหลังบ้านโดยเลือกใช้ไม้คลุมดิน ไม้เลื้อย หรือต้นไม้ตระกูลเฟิร์น เป็นต้น
4.มีหน้าต่างหรือช่องรับลมขนาดใหญ่
อีกหนึ่งปัจจัยของบ้านสไตล์นี้คือความปลอดโปร่ง มีอากาศถ่ายเทได้ดี จึงต้องมีช่องรับลมหรือหน้าต่างบานใหญ่ เพื่อให้สายลมและแสงแดดเข้าถึงตัวบ้านได้อย่างเหมาะสม ไม่อึดอัด บางบ้านอาจมีการทำห้องนั่งเล่น หรือระเบียงแยกออกมาต่างหาก เพื่อนั่งรับลมธรรมชาติได้อย่างชิลล์ ๆ ไม่ง้อเครื่องปรับอากาศ แถมยังประหยัดค่าใช้จ่ายในเรื่องค่าไฟฟ้าได้มากทีเดียว
5.เลือกใช้หลอดไฟสีส้ม (WARM WHITE)
การเลือกใช้ไฟสีส้ม หรือ (Warm White) ก็ถือเป็นปัจจัยที่ช่วยทำให้บ้านสไตล์ทรอปิคอลดูสมบูรณ์ และมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้นในช่วงเวลาพลบค่ำ เพราะสีส้มแสดงถึงความรู้สึกอบอุ่น เป็นกันเองมากกว่าสีขาวแบบ (Cool White)