ทรงบ้านโมเดิร์น
ทรงบ้านโมเดิร์น เมื่อยุคสมัยเปลี่ยน พฤติกรรมและการใช้ชีวิตของผู้คนก็ย่อมเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย จะเห็นได้ว่าไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนยุคนี้โฟกัสไปที่ความรวดเร็วและสะดวกสบายมากขึ้น เพราะมีเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ เข้ามาช่วยให้การใช้ชีวิตประจำวันง่ายขึ้น เช่นเดียวกับบ้านในยุคนี้ที่นอกจากทำเลต้องสะดวกกับการเดินทางแล้ว สภาพแวดล้อมและสไตล์ของบ้านก็มีส่วนสำคัญที่ช่วยสร้างบรรยากาศ ให้การใช้ชีวิตภายในบ้านมีความสุข ซึ่ง ‘บ้านโมเดิร์น’ เป็นอีกหนึ่งสไตล์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในปัจจุบัน
และตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนในยุคนี้ได้เป็นอย่างดี บ้านสไตล์โมเดิร์นเป็นการก่อสร้างที่ได้รับอิทธิพลมาจากช่วงยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมในศตวรรษที่ 18 โดยในช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ผู้คนให้ความสำคัญกับการใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่า โดยจะลดการใช้วัสดุอุปกรณ์ที่ไม่มีความจำเป็นสำหรับการก่อสร้าง และเพื่อเป็นการลดความฟุ่มเฟือยจึงได้มีการนำรูปทรงของเรขาคณิตมาเป็นแบบของโครงสร้าง
โดยการตกแต่งสไตล์โมเดิร์นยังเน้นที่ความเรียบง่าย ไม่นิยมการตกแต่งที่มากเกินความพอดี โดยให้ความสำคัญกับการเลือกใช้พื้นผิวที่มีความเป็นธรรมชาติ อีกทั้งแต่ละพื้นที่ต้องมีประโยชน์ในการใช้สอย ด้วยเหตุนี้คำว่า Modern แปลว่า สิ่งใหม่ จึงถูกนำมานิยามการตกแต่งสไตล์นี้เพื่อสื่อถึงความทันสมัย
Party House ต่อเติมบ้านโมเดิร์น ใช้พักผ่อนสังสรรค์การพักผ่อน สำหรับผู้อ่านนิยามคำนี้ว่าอย่างไรบ้างครับ เชื่อว่าภาพการพักผ่อนในผุดขึ้นมาในจินตนาการของแต่ละคนไม่เหมือนกันแน่นอน บางคนอาจจะเห็นตัวเองนอนสบาย ๆ อยู่ใต้ต้นไม้ท่ามกลางวิวยอดดอยเย็น ๆ แต่คนจำนวนไม่น้อยน่าจะคิดถึงเปลญวนที่ผูกอยู่ใต้ต้นมะพร้าวริมทะเล และแน่นอนว่าจะต้องมีคนรักบ้านบอกว่า ที่บ้านนี่แหละคือมุมพักผ่อนอย่างแท้จริง ในวันว่างจึงไม่อยากไปไหนอยากนอนอยู่บ้านเฉย ๆ ให้เวลากับครอบครัว หรือจัดปาร์ตี้เล็ก ๆ ชวนเพื่อมาทานอาหารกันสนุก ๆ ถ้าเราพอมีพื้นที่ว่าง ๆ (และมีงบประมาณ) มาต่อเติมพื้นที่ให้พร้อมรองรับกิจกรรมในแบบที่ชอบได้เต็มที่ก็เป็นทางเลือกที่ดี ซึ่งบ้านหลังนี้ก็สร้างสรรค์มาจากแนวคิดนี้เช่นกัน
โครงการนี้เป็นการต่อเติมบ้านด้วยจุดประสงค์หลัก ๆ คือ เพื่อการพักผ่อน บ้านเดิมที่มีตั้งอยู่ในพื้นที่เงียบสงบและล้อมรอบด้วยต้นไม้ในบราซิล ครอบครัวเจ้าของบ้านประกอบด้วยคุณพ่อคุณแม่ ลูกสามคน และสุนัขสองตัว ซึ่งไลฟ์สไตล์ของที่นี่จะชอบชวนเพื่อนมาเฮฮาปาร์ตี้ที่บ้าน จึงต้องการพื้นที่ขนาดใหญ่นอกตัวบ้านหลัก สำหรับกิจกรรมแบบที่ไม่รบกวนสมาชิกคนอื่นๆ ดังนั้นสถาปนิกจึงได้มีการเสนอส่วนต่อเติมที่เคารพอาคารที่มีอยู่ เป็นอาคารชั้นเดียวหลังคาแบน ประกอบด้วยวัสดุที่เรียบง่ายในโทนสีกลางๆ
มีองค์ประกอบที่โปร่งเบา ทันสมัย และใช้งานได้จริงสำหรับชีวิตประจำวัน โดยมีแนวหลังคาโปร่งแสงโครงสร้างโลหะขนาดใหญ่ที่หุ้มด้วยกระจก เป็นตัวกำหนดทางเข้าหลักของอาคารที่เชื่อมต่อกับบ้านเดิมรอต้อนรับการมาเยือนซุ้มทางเดินที่จะใช้ปลูกไม้เลื้อยในอนาคต เชื่อมต่อบ้านกับพื้นที่ทานอาหาร นอกจากจะใช้งานได้จริงแล้ว ยังเพิ่มความสวยงามและคุณค่าที่แตกต่างให้กับบ้านโดยรวมอีกด้วย
ภายในบ้านเน้นพื้นที่ทางสังคมขนาดใหญ่ โดยผสมผสานระหว่างห้องครัว ห้องนั่งเล่น และห้องรับประทานอาหารให้ต่อเนื่องกันเป็นสเปซใช้งานกว้าง ๆ เสมือนหัวใจของบ้าน มีประตูบานเลื่อนเชื่อมต่อบ้านกับสวนภายนอกและเฉลียง ทำให้ภายนอกภายในเหมือนเป็นส่วนเดียวกัน ส่วนของเคาน์เตอร์ครัวส่วนกลางสร้างจากคอนกรีตเสริมเหล็ก จึงแข็งแรงทนทานงานหนัก ด้านหน้าติดตั้งแผ่นไม้ยาว 6 ม. ซึ่งสามารถใช้เป็นโต๊ะนั่งได้พร้อมกัน 12 คนได้อย่างสะดวกสบาย ยังไม่รวมบริเวณโต๊ะอาหารและพื้นที่นั่งเล่น ก็จะรองรับการมาเยือนได้มากกว่า 20 คน
ผนังด้านข้างโดดเด่นกับอ่างล้างหน้าที่ปิดตกแต่งด้วยตู้ไม้ mdf ลายเส้นไม้ระแนง ดูเหมือนเป็นผนังธรรมดาที่ติดซิงค์ล้างลอยตัวอยู่ แต่ถ้าลองผลักดูจะรู้ว่าสองข้างที่ขนาบซิงค์อยู่ซ่อนประตูบานหมุนประตูหมุนที่ซ่อนทางเข้าห้องน้ำสองห้องเอาไว้ที่ด้านหลัง เป็นหนึ่งมุมสนุก ๆ ของบ้านที่สร้างสีสันให้กับแขกไม่น้อยนอกจากห้องทานอาหารและส่วนใช้งานสันทนาการแล้ว ในบ้านยังมีห้องนอนเล็ก ๆ และห้องน้ำอีก 1 ห้องที่อยู่ติดกับโรงจอดรถ สำหรับใครที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศมานอนที่นี่
หรือสังสรรค์ดึกจนกลับที่พักไม่ไหวก็สามารถมาแวะนอนพักได้การจัดบ้านให้รู้สึกว่ากว้างมีพื้นที่ใช้งานมากขึ้น และสามารถจุคนได้มากในวันที่มีงานเลี้ยงสังสรรค์ ทำได้หลายวิธีตั้งแต่การจัดแปลนภายในแบบเปิดหรือที่เรียกว่า open plan คือ การรวมฟังก์ชันใช้งานร่วมกันอยู่ในห้องเดียว โดยไม่มีผนังมาแบ่งกั้นแยกเป็นห้องเล็กห้องน้อย การใช้งานจึงยืดหยุ่นลื่นไหล ปัจจัยต่อไปคือการจัดการช่องเปิด หากทำบานประตูแบบบานเลื่อนติดกระจกใสที่เปิดออกได้กว้างหลายทิศทางเชื่อมออกมาที่เฉลียงและพื้นที่กลางแจ้งนอกบ้าน จะทำให้บ้านดูเหมือนไร้ขอบเขตและกว้างขึ้น
บ้านโมเดิร์นหลังคาแบน เรียบง่ายท้าทายกาลเวลา
การสร้างบ้านสามารถทำได้ทุกที่ แม้ว่าสภาพอากาศหรือภูมิประเทศไม่เป็นใจ Atelier Pierre Thibault ทีมงานสถาปนิกพบกับความท้าทายในการสร้างบ้านสไตล์โมเดิร์นบนชายฝั่งของแคนาดา สภาพพื้นที่ที่เต็มไปด้วยทรายและสภาพอากาศที่รุนแรงของชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกของแคนาดา มีอิทธิพลต่อการออกแบบค่อนข้างมาก แต่ทีมงานก็แก้โจทย์ได้อย่างเข้าใจ ทำให้ได้ผลงานออกมาเป็นบ้านที่ชวนให้ผ่อนคลายรับลมทะเลได้ในทุกตารางเมตร
บ้านโมเดิร์นชั้นเดียว
การก่อสร้างในไซต์ที่ใกล้ทะเลเป็นความท้าทายเฉพาะ เนื่องจากวัสดุทั้งหมดต้องมีความทนทานในสภาวะความแปรปรวนของสภาพอากาศและไอทะเล ที่นี่ตั้งอยู่ใน Grand-Barachois ซึ่งเป็นหมู่บ้านห่างไกลในจังหวัด New-Brunswick ประเทศแคนาดา หลังจากการพิจารณาข้อจำกัดและสิ่งที่สามารถใช้งานได้ในบริบทแวดล้อม สถาปนิกเลือกออกแบบที่อยู่อาศัยเป็นอาคารคอนกรีตชั้นเดียวแบบยกสูงจากพื้นไม่มาก (low-slung) เพื่อไม่มีผลกระทบต่อภูมิทัศน์ในชนบทแถบนี้
พื้นที่โล่งข้างใต้เอื้อให้น้ำไหลระบายได้ดี ไม่มีน้ำขังทำลายการตกแต่งภายในและไม้ที่หุ้มภายนอกภาพรวมของบ้านเป็นอาคารหน้ายาวเหมือนกระดาน เต็มไปด้วยกระจกใส และที่ว่างเหมือนเป็นศาลาสองหลังแยกจากกัน ซึ่งเป็นรูปแบบที่ตั้งใจให้กลมกลืนกับเส้นขอบฟ้าที่อยู่ไกลออกไป หลังคาทรงแบนที่ยื่นออกมากว้าง ๆ ช่วยปกป้องตัวอาคารจากแดดฝน ส่วนแผ่นไม้ที่หุ้มภายนอก ผนังกระจก และช่องว่างตามจุดต่างๆ ในบ้านไม่ได้เป็นส่วนประกอบที่ทำใส่เข้ามาเพื่อความสวยงาม หรือดึงวิวดึงแสงธรรมชาติเข้าสู่ตัวบ้านเท่านั้น
แต่ยังทำหน้าที่ช่วยปกป้องบ้าน ลดแรงปะทะจากความรุนแรงจากลมทะเลด้วยจากทางเข้าหลักซึ่งมีทางเดินกระจกที่มองเห็นทิวทัศน์ของมหาสมุทรตลอดแนว จะมีบันไดคอนกรีตสามขั้นนำเข้าไปยังห้องครัวแบบเปิด ห้องนั่งเล่น และห้องรับประทานอาหาร ที่โปร่งโล่งด้วยผนังกระจกทั้งสองด้าน บ้านส่วนนี้จึงโล่งโปร่งเหมือนไม่มีผนังพร้อมรับทิวทัศน์ทะเลอันกว้างไกลได้รอบทิศทางด้านนี้ของบ้านมีความทึบและมีผนังล้อมรอบมากกว่า เพราะมีห้องนอนสามห้องอยู่ในนั้น เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัย ห้องนอนมีช่องเปิดจำกัดในแนวนอน แต่จะสามารถมองข้ามออกไปยังลานภายในระหว่างสองส่วนของบ้าน รวมถึงสวนภายในและต้นไม้รอบ ๆได้
Leblanc Residence นั้นเหมาะสมกว่าสำหรับผู้ที่ชื่นชอบอากาศทะเลของมหาสมุทรแอตแลนติก เพราะเลย์เอาต์ที่ออกแบบมาอย่างชาญฉลาด ทำให้สามารถใช้ประโยชน์จากจุดที่ไม่เหมือนใครบนชายฝั่งแคนาดาได้มากที่สุด วัสดุทั้งหมดที่ใช้ในงานสร้างได้รับการคัดเลือกมาอย่างดีเพื่อให้มีอายุในสภาพอากาศที่ยาวนาน และเฉลียงด้านนอกปูด้วยไม้ยาวที่หน้าบ้านก็ชวนให้ออกมาเพลิดเพลินกับการสูดกลิ่นอายบรรยากาศชายทะเล
ในขณะที่วันอากาศไม่เป็นใจก็ยังสามารถเชื่อมต่อธรรมชาติด้วยการเปิดปล่อยสายตาผ่านผนังกระจกใสได้การสร้างบ้านริมทะเล ต้องออกแบบโครงสร้างและเลือกใช้วัสดุที่มีความแข็งแรงมากกว่าบ้านทั่วไป เพื่อให้บ้านทนต่อสภาพอากาศที่แปรปรวนรุนแรง อาจจะมีพายุฝนและลมพัดค่อนข้างแรงบ่อย ๆ ทำให้บ้านชื้น และการกัดกร่อนจากเกลือทะเล วัสดุที่นิยมใช้ เช่น คอนกรีตทนน้ำเค็ม (Marine Concrete) สีที่ใช้ทาบ้านเทาเหล้กก็ต้องเลือกที่ทนทาน เช่น อีพ็อกซี่ทาเหล็กจะทนกรดจากไอเกลือมากกว่า หรือสีโพลียูริเทน เป็นต้น ตัวบ้านต้องออกแบบช่องเปิดของบ้านให้เหมาะสมกับทิศทางการเดินทางของลมด้วย เพื่อลดแรงปะทะของลมกับตัวบ้านในฤดูมรสุม
นิยามของบ้านสไตล์โมเดิร์น
บ้านโมเดิร์น คือบ้านที่ได้รับอิทธิพลมาจากสิ่งก่อสร้างจากยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมของชาติตะวันตกในศตวรรษที่ 18 ซึ่งผสมผสานระหว่างความทันสมัยและร่วมสมัย ทั้งด้านเทคโนโลยีและวิศวกรรมเข้าด้วยกัน โดยโครงสร้างและวัสดุที่ใช้ส่วนใหญ่จะเป็นโลหะ คอนกรีต กระจก เหล็กและไม้ ซึ่งวัสดุเหล่านี้มีความงามตามธรรมชาติ ดูโดดเด่น สวยงาม หรูหรา ให้ความรู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติ แต่แฝงด้วยรายละเอียดที่ไม่เหมือนใคร
จุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของบ้านสไตล์โมเดิร์นที่ไม่ต้องสังเกตก็สามารถรู้ได้ทันทีนั่นคือ รูปทรงเรขาคณิต เช่น สี่เหลี่ยมหรือเส้นโค้งที่เกิดจากส่วนของวงกลมที่มีความเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน อีกทั้งเฟอร์นิเจอร์ที่มีดีไซน์เรียบง่าย แต่คำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยมากกว่าการตกแต่งให้สวยงามหรูหราเพียงอย่างเดียว
ข้อดีของบ้านโมเดิร์นที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่
1. บ้านโมเดิร์น – ดูแลรักษาง่าย
เนื่องจากวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างบ้านสไตล์โมเดิร์นเป็นวัสดุที่หาง่าย มีความทันสมัย โดยเฉพาะกระจกและเหล็กซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสไตล์บ้านโมเดิร์น ทำให้เวลาทำความสะอาดหรือต่อเติมสามารถทำได้ง่าย ไม่ต้องเสียเวลาในการหาวัสดุมาเปลี่ยนหรือต่อเติมให้ยุ่งยาก รวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านเอง ที่เน้นฟังก์ชันการใช้งานและจัดวางอย่างเป็นระเบียบ ซึ่งนอกจากช่วยประหยัดพื้นที่แล้วยังประหยัดเวลาในการดูแลรักษา ในขณะเดียวกันยังเพิ่มภาพลักษณ์หรูหราให้กับบ้านมากขึ้นด้วย
2. บ้านโมเดิร์น – แบ่งสัดส่วนชัดเจน
การแบ่งสัดส่วนชัดเจน มีพื้นที่ สำหรับรองรับการใช้งานในส่วนนั้น ๆ โดยเฉพาะ เป็นอีกหนึ่งข้อดี ของบ้านโมเดิร์น ที่สร้างผลลัพธ์ให้ทุกพื้นที่ใช้สอยในตัวบ้านถูกใช้งานอย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด โดยไม่ทับซ้อนหรือปะปนกับพื้นที่ส่วนอื่น ๆ ทำให้บ้านดูมีความเป็นระเบียบและดูไม่รกอีกด้วย
3. บ้านโมเดิร์น – ดีไซน์ทันสมัย
เพราะสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ ของแบบบ้านโมเดิร์น คือการผสมผสานร ะหว่างความทันสมัยและร่วมสมัย ซึ่งมาจากวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้าง ยิ่งไปกว่านั้นในยุคนี้ยังมีเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ ที่เข้ามาเสริมความสะดวกสบาย ให้กับบ้านมากขึ้น อย่างเช่น การติดตั้งแผงโซลาร์รูฟ (Solar Roof) เป็นต้น ที่ช่วยประหยัด พลังงานภายในบ้าน อีกทั้งเฟอร์นิเจอร์ ของบ้านสไตล์โมเดิร์นมักเป็นรูปทรงที่เรียบง่าย น้อยแต่มาก มีมัลติฟังก์ชั่นในตัวเพื่อตอบสนองการใช้งานที่หลากหลาย ถือเป็นอีกหนึ่งข้อดีที่ทำให้บ้านสไตล์โมเดิร์นดูทันสมัยอยู่เสมอ
4. บ้านโมเดิร์น – การเลือกใช้สี
สไตล์บ้านโมเดิร์นเป็นสไตล์ที่ ยึดความเรียบง่ายเป็นหลัก เราจึงเห็นบ้านสไตล์ นี้ในโทนสีกลาง ๆ หรือโทนสีสว่าง ไม่ฉูดฉาด เช่น สีขาว ครีม เบจ หรือสีเอิร์ธโทนที่ให้ความรู้สึกหรูหรา อบอุ่น น่าอยู่อาศัยและมีความใกล้เคียงกับธรรมชาติ เพื่อให้ผสมผสานเข้ากับวัสดุต่าง ๆ ภายในบ้านได้อย่างลงตัว แต่หากรู้สึกว่าบ้านดูเรียบเกินไปอาจใช้เส้นสาย สีสันแบบ Primary Colors หรือแม่สีของเฟอร์นิเจอร์มาตกแต่ง เพื่อทำให้ภาพรวมของบ้านดูมีเสน่ห์และมีสไตล์มากขึ้น
5. บ้านโมเดิร์น – ประหยัดงบในการสร้าง
ด้วยโครงสร้างของบ้านโมเดิร์นที่ไม่ซับซ้อนและดีไซน์ที่เน้นความเรียบง่าย ทำให้ใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างน้อยกว่าบ้านสไตล์อื่น ๆ นั่นหมายความว่างบประมาณที่ใช้ก็จะน้อยลงตามไปด้วย รวมไปถึงลดค่าใช้จ่ายในการตกแต่งภายในบ้านไปได้เยอะ