บ้านไม่มีรั้ว แต่มีความเป็นส่วนตัวอย่างเต็มที่
บ้านไม่มีรั้ว แต่มีความเป็นส่วนตัวอย่างเต็มที่ คงวิถีแบบเดิม ให้อยู่ในบ้านทันสมัยแบบญี่ปุ่นเมื่อต้องการความเป็นส่วนตัวให้กับบ้าน เรามักนึกถึงการทำรั้วกำแพงสูงให้ปิดทึบ บดบังสายตาจากผู้คนสัญจรภายนอก จนบางครั้งอาจจะได้ไม่คุ้มเสีย เพราะแทนที่จะได้ความเป็นส่วนตัวที่ผ่อนคลายสบายใจ ซื้อบ้านกลับพ่วงความอึดอัด อบอ้าว ที่ไม่ปลอดโปร่งแถมมาด้วย แต่ครั้นจะเปิดโปร่งโล่งแจ้งก็คงไม่งามเท่าไรนัก ชมแบบบ้านหลังคาลาดเอียงหลังนี้ จะได้ไอเดียในการสร้างความเป็นส่วนตัวโดยไม่ต้องมีรั้วกำแพงหน้าบ้านเลยออกแบบบ้าน
เริ่มต้นจากดีไซน์ภายนอก หลังคาเพิงหมาแหงนลาดเอียงขนาดใหญ่ ปกคลุมตัวบ้านไว้ได้อย่างอบอุ่นและรู้สึกได้ถึงความปลอดภัย หลบประตูไว้ไม่ให้เห็นได้จากด้านหน้า ซอกมุมเล็ก ๆ ที่ช่วยพรางสายตาได้เป็นอย่างดี ภายในบ้านมีการยกพื้นสูงขึ้นเล็กน้อย สามารถนั่งใส่รองเท้าได้เมื่อต้องออกไปข้างนอก ประตูไม้สีอ่อนบานเลื่อน กระดาษสีขาวแบบโปร่งแสง ตัดกับสีของพื้นไม้ที่มีความเข้มและโมเดิร์นขึ้นอีกหน่อยานจัดสรร
พื้นที่ใช้สอยภายในบ้านทั้งหมด 129 ตารางเมตร
ชั้นล่างออกแบบ Open Plan เชื่อมโยงห้องครัว ห้องรับประทานอาหาร และห้องนั่งเล่นไว้ร่วมกัน คานไม้หนา เส้นสายที่พาดเรียงกันใต้หลังคาเป็นรายละเอียดที่แสนอบอุ่น บ้านในเมืองจึงรู้สึกเหมือนได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติตลอดเวลา เคาน์เตอร์ครัวและโต๊ะรับประทานอาหารอยู่ใกล้กัน สะดวกในการจัดเก็บ มีช่องหน้าต่างไว้คอยรับแสงตรงกับตำแหน่งนั่งทานอาหาร
ห้องนั่งเล่นตกแต่งอย่างเรียบง่ายแต่มีสไตล์ด้วยม้านั่งโซฟา วางเบาะรองนั่งบาง ๆ ไว้ด้านบน มีประตูเปิดออกไปยังระเบียงบ้านที่เปิดและปิดได้ ตรงส่วนนี้เองที่ทำให้เจ้าของบ้านรู้สึกเป็นส่วนตัวมากขึ้น อีกทั้งยังไม่สูญเสียความปลอดโปร่งและอากาศสดชื่นที่ควรได้รับ พื้นที่ตรงระเบียงดีไซน์ประตูบานเลื่อนเป็นระแนงไม้ ช่องว่างระหว่างกัน คอยรับแสงสว่างและรับลมตลอดทั้งวัน หรือวันไหนที่อากาศดีดี เพียงเปิดประตูออกให้เต็มบาน ภายในบ้านจะยิ่งปลอดโปร่งมากขึ้นเป็นเท่าตัวเลยทีเดียวด้วยความละเอียดในการออกแบบ ทำให้บ้านหลังนี้ไม่จำเป็นต้องมีรั้ว มีกำแพงก็อยู่ได้อย่างสบาย ๆ ตลอดทั้งวัน บ้านจึงมีความปลอดโปร่งมากเป็นพิเศษ และความปลอดโปร่งนี่เอง ซื้อบ้านที่ทำให้การอยู่บ้านเป็นเรื่องที่แสนวิเศษ เป็นพื้นที่ความสุขที่หาไม่ได้จากที่ใดอีกเลย
วัตถุประสงค์ของบ้านที่ไม่มีรั้ว
วัตถุประสงค์ของโครงการที่เขาไม่มีรั้ว เพราะเขาต้องการสื่อให้เห็นว่าหมู่บ้านของเขานั้นปลอดภัยและมีเสรีไม่ติดยึดกับกรอบที่วางเอาไว้ แต่สัคมคนไทยเรานั้นมีกรอบในชีวิตตั้งแต่ไหนแต่ไรมาแล้วคนไทยนั้นเวลานอนจะนอนโดยการกางมุ้งมาแต่โบร่ำโบราณจึงทำให้เราติดยึกรอบกันมานาน
และที่สำคัญก็คือสังคมไทยมันไม่ปลอดภัยครับผมเคยไปดูหมู่บ้านใหญ่ ๆ มาหลายแห่งที่ไม่มีรั้วมีแต่ต้นไม้ไว้เป็นรั้ว ความรู้สึกแรกก็คือเราจะรู้สึกว่าไม่ปลอดภัยและสิ่งที่สองที่ตามมาก็คือเราจะรู้สึกว่าคนไทยเราไม่ค่อยคารพความเป็นส่วนตัวของกันและกัน ผมเองเมื่อเห็นผมก็คิดในใจว่าถ้าผมอยู่กับแฟนสองคน ถ้าข้างบ้านเลี้ยงสุนับ แมว แล้วเกิดมาถ่ายมูล หรือวิ่งมาคาบรองเท้าเราไป ข้างบ้านเขาจะรับผิดชอบไปไม่นะ พอคิดแค่ประเด็นของเรื่องหมาร แมวนี่ผมก็ถอยแล้วครับผมจึงมาหาซื้อบ้าที่มรั้วรอบขอบชิด วึ่งก็เป็นไปอย่างผมคาดการณ์ครับ
สวนสาธารณะประจำหมู่บ้านแทนที่ครอบครัวได้พักผ่อนเปล่าครับ ผมคิดว่านั่นคือส้วมสาธารณะของหมาแมว ดี ๆ นี่เองยิ่งคนรวยมาก ๆ ก็มักจะขาดความรับผิดชอบกับสังคมมากกว่าคนจนอีกครับ อันนี้ผมยืนยัน เช้าก็พาหมามาถ่าย มาอึในสวน โดยไม่อายสายตาคนอื่นเลยบ้านผมมีกล้องครับมีบ้านที่ถัดไปสองสามหลังเอาหมาฉี่ตามต้นไม้บ้านอื่น ๆ ผมจะเอาภาพวีดีโอแล้วเดินไปเชิญท่านออกมาคุยเลยครับแล้วบอกท่านว่าให้ไปเก็บมูลสุนัขที่หน้าบ้านผมด้วย ตามภาพวีดีโอ ที่ผมถ่ายไว้ บ้านเดี่ยว
คนไทยเรานั้นตามที่ผมบอกครับว่ายิ่งรวย ยิ่งมีฐานะดียิ่งขาดความรับผิดชอบกับสังคม มีพลตำรวจตรี อยู่คนซอยกับบ้านผม เขาให้ลุกชายปลอยสุนัขออกมาวิ่งมันก็ถ่อยหน้าบ้านผมผมก้ไปหานายพลคนนี้ครับ เขาถามผมว่ารุ้ไหมว่าผมเป็นใคร ผมบอกผมไม่รุ้ครับ เขาบอกว่าผมเป็นรองผู้บังคับการ ตำรวจนครบาล ซื้อบ้านผมบอกดีเลยครับท่านยิ่งท่านมีหน้าที่การงานดี อยู่ในนครบาล 5 นี่ยิ่งดีใหญ่ครับ ผมจะได้ทำหนังสือร้องเรียนไปได้ถูกที่ยิ่งมีตำหน่งใหญ่โตยิ่งดีครับจะได้ตามตัวได้ถูก ท่านก็ขอโทษและให้ลุกชายไปทำความสะอาดให้นี่คือสังคมหมู่บ้านของประเทศไทยแหล่ะครับ